วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ภูเขาที่เราฝัน

'ความสูงของภูเขาช่างเย้ายวน ชวนให้ปีนป่ายขึ้นไป
น่าค้นหา เมื่อไม่รู้ว่าการขึ้นไปยืนตรงนั้นจะเปลี่ยนมุมของการมองเห็น
ที่แน่ๆ มันน่าจะสนุกมากเมื่อได้ใช้กำลังแขนและขาเท่าที่มีพาตัวเองขึ้นไปยืนตรงนั้นด้วยตัวเอง
ลมที่พัดผ่านที่สูงก็เย็นกว่าที่รู้สึกได้ข้างล่าง รู้สึกใกล้ฟ้ามากกว่าที่เคย...'


นี่คือกิจกรรมหนึ่งที่เด็กๆชั้นอนุบาลโปรดปราน และวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่คุณครูประจำชั้นอนุบาล ๑ และ ๓ พาเด็กๆเดินผ่านป่ามหัศจรรย์ ระหว่างทางก็เก็บดอกไม้ไปด้วย ได้สังเกตใบไม้รูปร่างแปลกตาที่ซ่อนตัวอยู่ตามทางเดิน




ทันทีที่เห็นภูเขา เด็กบางคนวิ่ง เด็กบางคนเดิน ตามอัธยาศัยในสายตาของคุณครู เพื่อให้ตัวเองไปถึงภูเขาอย่างไวที่สุด






ภาพภูเขาเบื้องหน้าดูสง่าพอสมควร ด้วยความอยากเรียนรู้..เด็กๆจึงใช้สองมือ สองเท้าและจิตใจที่กล้าหาญพาตัวเองขึ้นไป บ้างก็คว้าต้นหญ้าเพื่อดึงตัวเองขึ้นไป แต่พอรู้ว่าต้นหญ้าไม่มั่นคงพอ จึงเปลี่ยนใจกลับมาจับพื้นตามเดิม  ภูเขาทรายป้องกันตัวเองอย่างดีเยี่ยม ด้วยทรายที่ไม่เป็นมิตรกับรองเท้านักเรียน เด็กบางคนก็ลื่นไถลลงมา แต่นั่นก็ไม่สามารถลดละความพยายามของเด็กๆได้เลย บางคนปีนแล้วก็ลื่นลื่นแล้วก็ปีนใหม่ไปจนถึงข้างบนเขา แล้วส่งยิ้มลงมาให้เพื่อนๆข้างล่าง บางคนไม่เพียงแต่พาตัวเองขึ้นไป ยังเป็นกำลังสำคัญในการเข็นเพื่อนขึ้นภูเขาด้วย








ขณะที่อยู่บนเขา ฉันสังเกตเห็นถึงรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ สายตาที่เป็นประกาย ความอิสระที่เด็กๆมีในขณะนั้น....





ความชันและลื่นของภูเขา ทำให้เด็กๆนึกถึงเครื่องเล่นชิ้นหนึ่งที่สนามเด็กเล่น เด็กๆหย่อนก้นสีน้ำเงินของตัวเองลงบนพื้นทราย และลื่นลงมาราวกับกำลังเล่นสไลเดอร์ เด็กๆเล่นสนุกกันอย่างนั้นอยู่หลายรอบจนไม่ได้สังเกตสีของกางเกงที่เปลี่ยนไป




คุณครูปล่อยให้เด็กๆเล่นอยู่สักพัก เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็เรียกเด็กๆลงมายืนเข้าแถว เตรียมพร้อมเดินกลับโรงเรียน การยืนเป็นแถวนอกจากจะเป็นเรื่องของระเบียบแล้ว ก็ยังเป็นการง่ายต่อคุณครูในการนับจำนวนเด็กๆด้วย

เมื่อได้ยินเสียงคุณครูเรียก เด็กๆก็ทยอยกันลงมาจากภูเขาด้วยวิธีต่างๆ บ้างก็เดิน บ้างก็วิ่ง บ้างก็สไลด์ลงมา และก็มีบางคนที่ใช้ความกล้าไปหมดแล้วเมื่อตอนขึ้น คุณครูใจดีจึงเดินขึ้นไปจับมือแล้วพาเดินลงมา







เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว คุณครูและเด็กๆก็พากันเดินกลับโรงเรียน  แม้จะเป็นทางเดียวกับตอนที่เดินมา แต่สิ่งที่เราสังเกตเห็นระหว่างทางกลับ กลับไม่ใช่สิ่งเดิมกับตอนที่เดินมาเลย